อาการชักระหว่างมีไข้

คำว่า "อาการไข้ชัก" ที่ใช้ในการพูดทั่วไปนั้นไม่ถูกต้องซะทีเดียวนัก ควรเรียกว่า "อาการชักระหว่างการมีโรคติดเชื้อ" จะดีกว่า สิ่งนี้ยังแสดงถึงที่มาของปรากฏการณ์การเกิดการชักระหว่างมีไข้ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งขัดกับความเชื่อเดิม อาการชักไม่ได้เกิดเฉพาะเวลามีไข้สูง แต่อาจเกิดการชักได้แม้ไม่มีไข้ ส่วนใหญ่โดยมากมักเกิดขึ้นในช่วงเริ่มต้นของการติดเชื้อ ขณะที่ไข้เพิ่งเริ่มเพิ่มขึ้น

สำหรับคนที่ไม่รู้จักมันดูน่ากลัว

แต่ลองมาดูทีละขั้นตอนไปด้วยกัน

 

อุบัติการณ์การเกิด

อาการชักระหว่างเด็กไม่สบายไม่ใช่เรื่องแปลกในเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี ซึ่งเกิดขึ้นประมาณ 3% ของเด็กอายุระหว่าง 6 เดือนถึง 5 ปี เนื่องจากสมองของเด็กไวต่อการติดเชื้อและมีไข้มากกว่าในเด็กโต หรืออาจกล่าวได้ว่าเด็กเล็กมีความไวต่อการชักมากกว่า  เมื่อเด็กมีอาการชักแล้ว อาจเกิดซ้ำได้อีก 1-2 เท่าจาก 1 ใน 3 ของเด็กทั่วไปจนกว่าพวกเขาจะเติบโตจนเข้าสู่วัยเรียน

โรคลมบ้าหมู ไม่ได้เกิดขึ้นจากมีอาการชักระหว่างเป็นไข้ในเด็ก คุณไม่ต้องกังวลกับเรื่องนี้เลย! จากเด็ก 100 คนที่มีอาการชักระหว่างเป็นไข้ มีเพียงสองกรณีเท่านั้นที่เป็นสัญญาณแรกเริ่มของการป่วยด้วยโรคลมชักในภายหลัง

อาการชักขณะมีไข้ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสมองแต่อย่างใด และไม่ก่อให้เกิดความผิดปกติของพฤติกรรม การเรียนรู้ หรือพัฒนาการใดๆเลย

นอกจากนี้ยังไม่มีความเชื่อมโยงระหว่างอาการชักขณะมีไข้กับกลุ่มอาการเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ของทารก sudden infant death syndrome (SIDS)

 

อาการชักระหว่างมีไข้ตามปกติ ที่เรียกว่า “ไม่ซับซ้อน” คือ

  • การกระตุกเป็นจังหวะของแขนขาทั้งสองข้าง
  • ร่างกายแข็งทื่อ
  • อาการกระตุกน้อยกว่า 5 นาที
  • มักจะคลายลงเองใน 1-2 นาที
  • ผู้ป่วยมักจะผล็อยหลับไปหลังจากนั้น
  • อายุเด็ก 6 เดือน - 5 ปี

 

สิ่งที่ไม่ควรท

1) อย่าเพิ่มยาลดไข้เพื่อพยายามป้องกัน ไม่สามารถป้องกันหรือหยุดอาการเกร็งกระตุกได้ ไม่สามารถป้องกันได้แม้แต่ในเด็กที่เคยเป็นมีอาการชักระหว่างเป็นไข้มาก่อน

2) ห้ามทำให้เด็กตัวเย็นลงเพื่อป้องกันหรือในระหว่างมีอาการชัก

3) ในกรณีที่มีอาการชัก อย่าให้ยาลดไข้แก่เด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่าให้กินทางปาก

4) ในกรณีที่มีอาการชัก ห้ามกดเด็กลงกับพื้น หรือ พยายามง้างปาก ห้ามใส่อะไรเข้าไปในปากเด็ดขาด

 

พวกเราทำอะไรได้บ้าง?

สิ่งที่ควรทำเพื่อป้องกันการชักระหว่างมีไข้

1. มาสนับสนุนการควบคุมอุณหภูมิของเด็กกันเถอะ! ขณะที่เด็กมีไข้ขึ้น มือและเท้าของเด็กมักยังคงเย็นอยู่ ซึ่งในกรณีนี้ ควรให้ความอบอุ่นแก่เด็กอย่างนุ่มนวล แทนที่จะทำให้ตัวเย็นลง การทำเช่นนี้ได้รับการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์แล้วว่า  การให้ความร้อนที่เพียงพอเป็นวิธีป้องกันการชักระหว่างมีไข้อย่างมีประสิทธิภาพ และการเพิ่มระดับเมลาโทนิน (132, 170-172) โดยการจัดห้องให้มืดและมีความสงบให้กับเด็กในสภาวะไข้ก็ช่วยป้องกันได้อีกด้วย

2. สิ่งสำคัญคือต้องให้เด็กมีสภาพแวดล้อมที่สงบและสบาย ซึ่งหมายความว่า: หลีกเลี่ยงความเครียด ความตึงเครียด ความกลัว สิ่งเร้าที่ไม่จำเป็น (หลีกเลี่ยงสื่อดิจิทัล เนื่องจากระบบประสาทต้องการความสงบ)

3. เมื่อผิวหนังของเด็กร้อนขึ้นในช่วงที่ 2 ของไข้ ใบหน้าของเขาจะแดง เราสามารถทำให้หน้าผาก ขมับ และร่างกายของเขาเย็นลงได้ด้วยการเช็ดด้วยผ้าขนหนูเปียกอุ่นๆเช็ดตัว

 

กรณีเกิดอาการชักระหว่างมีไข้  สามารถทำได้ตามนี้

  • อย่างแรกคือการดูนาฬิกาอย่างรวดเร็ว ว่ามันเริ่มเมื่อไหร่
  • ใจเย็น
  • จับเด็กนอนตะแคงด้านข้างจะดีที่สุด เพราะเด็กอาจอาเจียน กลืนน้ำลาย ปกป้องศีรษะและทางเดินหายใจเป็นพิเศษ
  • อยู่กับเด็ก และดูนาฬิกาเพื่อให้ทราบระยะเวลาว่าชักนานเท่าไหร่แล้ว
  • โทรเรียก 1669 บริการฉุกเฉินและปฏิบัติตามคำแนะน

 

อาการชักระหว่างมีไข้ที่ซับซ้อนไม่ปกติ

อาการชักที่ถือว่า ซับซ้อน ไม่ปกติ เป็นดังนี้

  • อาการชักที่ไม่สมมาตร แขนขา 2 ข้างไม่เท่ากัน 
  • ชักยาวนานกว่า 5 นาที
  • อาการเริ่มต้นที่ด้านใดด้านหนึ่งหรือเริ่มต้นที่จุดใดจุดหนึ่งของร่างกาย (โฟกัส)
  • เด็กไม่ได้สติ หรือไม่รู้สึกตัวเต็มที่ ระหว่างการชักสองครั้งติดต่อกัน
  • เกิดการชักซ้ำภายใน 24 ชั่วโมง
  • มีอาการผิดปกติของระบบประสาทตกค้าง (เสียการรับรู้ความรู้สึก การเคลื่อนไหวผิดปกติ)
  • เกิดในเด็กอายุน้อยกว่า 6 เดือนหรือมากกว่า 5 ปี

 

จะทำอย่างไรในกรณีที่เกิดอาการชักที่ซับซ้อน

  • หากอาการชักไม่สิ้นสุดภายใน 5 นาที ให้โทรไปที่หมายเลขฉุกเฉิน 1669 และปฏิบัติตามคำแนะนำ
  • หากมี Diazepam Rectiole อยู่ ให้ป้อนเด็กหลังจากหยุดชักแล้ว

อัปเดตเวอร์ชัน: 1 มีนาคม 2024

คุณสามารถค้นหาหมายเลขอ้างอิงที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่: ข้อมูลอ้างอิง